tag:blogger.com,1999:blog-10512755216335972242024-03-13T16:43:29.695-07:00MY WORLDในโลกของเราใบนี้มีความลับมากมายที่ยังไม่มีใครรู้ ส่วนในโลกของฉัน...ฉันอยากให้คุณเข้ามาสัมผัสthidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.comBlogger6125tag:blogger.com,1999:blog-1051275521633597224.post-77244915902513788992007-09-24T22:42:00.002-07:002007-09-24T22:42:53.606-07:00การสร้างสื่อการเรียนการสอน<ul><li><span style="color:#9999ff;"><strong>1.</strong> สื่อการสอน</span></li></ul><p><span style="color:#ff99ff;">........สื่อการสอน</span> หมายถึง วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการ ซึ่งถูกนำมาใช้ในการการเรียนการสอน เพื่อเป็นตัวกลางในการนำส่งหรือถ่ายทอดความรู้ ทักษะ และเจตคติ จากผู้สอนหรือแหล่งความรู้ไปยังผู้เรียน ช่วยให้การเรียนการสอนดำเนินไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ และทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่ตั้งไว้ที่มา : <a href="http://edtech.edu.ku.ac.th/edtech/wbi/index.php">http://edtech.edu.ku.ac.th/edtech/wbi/index.php</a><br /><br /><span style="color:#6600cc;"><span style="color:#9999ff;">"ความสำคัญของสื่อการสอน" ดังนี้</span> </span><span style="color:#6600cc;"><br /></span>1. สื่อการสอน ช่วยสร้างรากฐานที่เป็นรูปธรรมขึ้นในความคิดของผู้เรียน การฟังเพียงอย่างเดียวนั้น ผู้เรียนจะต้องใช้จินตนาการเข้าช่วยด้วย เพื่อให้สิ่งที่เป็นนามธรรมเกิดเป็นรูปธรรมขึ้นในความคิด แต่สำหรับสิ่งที่ยุ่งยากซับซ้อน ผู้เรียนย่อมไม่มีความสามารถจะทำได้ การใช้อุปกรณ์เข้าช่วยจะทำให้ผู้เรียนมีความเข้าใจและสร้างรูปธรรมขึ้นในใจได้<br />2. สื่อการสอน ช่วยเร้าความสนใจของผู้เรียน เพราะผู้เรียนสามารถใช้ประสาทสัมผัสได้ด้วยตา หู และการเคลื่อนไหวจับต้องได้แทนการฟังหรือดูเพียงอย่างเดียว<br />3. เป็นรากฐานในการพัฒนาการเรียนรู้และช่วยความทรงจำอย่างถาวร ผู้เรียนจะสามารถนำประสบการณ์เดิมไปสัมพันธ์กับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้ เมื่อมีพื้นฐานประสบการณ์เดิมที่ดีอยู่แล้ว<br />4. ช่วยให้ผู้เรียนได้มีพัฒนาการทางความคิด ซึ่งต่อเนื่องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทำให้เห็นความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับสิ่งต่าง ๆ เช่น เวลา สถานที่ วัฏจักรของสิ่งมีชีวิต<br />5. ช่วยเพิ่มทักษะในการอ่านและเสริมสร้างความเข้าใจในความหมายของคำใหม่ ๆ ให้มากขึ้น ผู้เรียนที่อ่านหนังสือช้าก็จะสามารถอ่านได้ทันพวกที่อ่านเร็วได้ เพราะได้ยินเสียงและได้เห็นภาพประกอบกัน<br />เปรื่อง กุมุท ให้ความสำคัญของสื่อการสอน ดังนี้<br />1. ช่วยให้คุณภาพการเรียนรู้ดีขึ้น เพราะมีความจริงจังและมีความหมายชัดเจนต่อผู้เรียน<br />2. ช่วยให้นักเรียนรู้ได้ในปริมาณมากขึ้นในเวลาที่กำหนดไว้จำนวนหนึ่ง<br />3. ช่วยให้ผู้เรียนสนใจและมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในกระบวนการเรียนการสอน<br />4. ช่วยให้ผู้เรียนจำ ประทับความรู้สึก และทำอะไรเป็นเร็วขึ้นและดีขึ้น<br />5. ช่วยส่งเสริมการคิดและการแก้ปัญหาในขบวนการเรียนรู้ของนักเรียน<br />6. ช่วยให้สามารถเรียนรู้ในสิ่งที่เรียนได้ลำบากโดยการช่วยแก้ปัญหา หรือข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ดังนี้<br />.....· ทำสิ่งที่ซับซ้อนให้ง่ายขึ้น<br />.....· ทำนามธรรมให้มีรูปธรรมขึ้น<br />.....· ทำสิ่งที่เคลื่อนไหวเร็วให้ดูช้าลง<br />.....· ทำสิ่งที่ใหญ่มากให้ย่อยขนาดลง<br />.....· ทำสิ่งที่เล็กมากให้ขยายขนาดขึ้น<br />.....· นำอดีตมาศึกษาได้<br />.....· นำสิ่งที่อยู่ไกลหรือลี้ลับมาศึกษาได้<br />7. ช่วยให้นักเรียนเรียนสำเร็จง่ายขึ้นและสอบได้มากขึ้น<br /><br /><span style="color:#9999ff;">"ประเภทของสื่อการสอน"<br /></span>โรเบิร์ต อี. ดี. ดีฟเฟอร์ แบ่งประเภทของสื่อการสอน ดังนี้<br />1. วัสดุที่ไม่ต้องฉาย ได้แก่ รูปภาพ แผนภูมิ กราฟ ของจริง ของตัวอย่าง หุ่นจำลอง แผนที่ กระดาษสาธิตลูกโลก กระดานชอล์ค กระดานนิเทศ กระดานแม่เหล็ก การแสดงบทบาท นิทรรศการ การสาธิต และการทดลองเป็นต้น<br />2. วัสดุฉายและเครื่องฉาย ได้แก่ สไลด์ ฟิล์มสตริป ภาพโปร่งใส ภาพทึบ ภาพยนตร์ และเครื่องฉายต่าง ๆ เช่น เครื่องฉายภาพยนตร์ เครื่องฉายสไลด์ และฟิล์มสตริป เครื่องฉายกระจกภาพ เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ เครื่องฉายภาพทึบแสง เครื่องฉายภาพจุลทัศน์ เป็นต้น<br />3. โสตวัสดุและเครื่องมือ ได้แก่ แผ่นเสียง เครื่องเล่นจานเสียง เทป เครื่องบันทึกเสียง เครื่องขยายเสียง และวิทยุ เป็นต้นศาสตราจารย์สำเภา วรางกูร ได้แบ่งประเภทและชนิดของสื่อการสอน ดังนี้<br />..........ก. ประเภทวัสดุโสตทัศน์ (Audio-Visual Materials<br />1. ประเภทภาพประกอบการสอน(Picture Instructional Materials)<br />..ภาพที่ไม่ต้องฉาย (Unprojected Pictures)<br />..ภาพเขียน (Drawing)<br />..ภาพแขวนผนัง (Wall Pictures)<br />..ภาพตัด (Cut-out Pictures)<br />..สมุดภาพ (Pictorial Books, Scrapt Books)<br />..ภาพถ่าย (Photographs)<br />..ภาพที่ต้องฉาย (Project Pictures)<br />..สไลด์ (Slides)<br />..ฟิล์มสตริป (Filmstrips)<br />..ภาพทึบ (Opaque Projected Pictures)<br />..ภาพโปร่งแสง (Transparencies)<br />..ภาพยนตร์ 16 มม., 8 มม., (Motion Pictures)<br />..ภาพยนตร์ (Video Tape)<br />2. ประเภทวัสดุอุปกรณ์ลายเส้น (Graphic Instructional Materials)<br />..แผนภูมิ (Charts)<br />..กราฟ (Graphs)<br />..แผนภาพ (Diagrams)<br />..โปสเตอร์ (Posters)<br />..การ์ตูน (Cartoons, Comic strips)<br />..รูปสเก็ช (Sketches)<br />..แผนที่ (Maps)<br />..ลูกโลก (Globe)<br />3. ประเภทกระดานและแผ่นป้ายแสดง (Instructional Boards and Displays)<br />..กระดานดำหรือกระดานชอล์ก (Blackboard,Chalk Board)<br />..กระดานผ้าสำลี (Flannel Boards)<br />..กระดานนิเทศ (Bulletin Boards)<br />..กระดานแม่เหล็ก (Magnetic Boards)<br />..กระดานไฟฟ้า (Electric Boards)<br />4. ประเภทวัสดุสามมิติ (Three-Dimensional Materials) มี<br />..หุ่นจำลอง (Models)<br />..ของตัวอย่าง (Specimens)<br />..ของจริง (Objects)<br />..ของล้อแบบ (Mock-Ups)<br />..นิทรรศการ (Exhibits)<br />..ไดออรามา (Diorama)<br />..กระบะทราย (Sand Tables)<br />5. ประเภทโสตวัสดุ (Auditory Instructional Materials)<br />..แผ่นเสียง (Disc Recorded Materials)<br />..เทปบันทึกเสียง (Tape Recorded Materials)<br />..รายการวิทยุ (Radio Program)<br />6. ประเภทกิจกรรมและการละเล่น (Instructional Activities and Plays)<br />..การทัศนาจรศึกษา (Field Trip)<br />..การสาธิต (Demonstrations)<br />..การทดลอง (Experiments)<br />..การแสดงแบบละคร (Drama)<br />..การแสดงบทบาท (Role Playing)<br />..การแสดงหุ่น (Pupetry)<br />...........ข. ประเภทเครื่องมือโสตทัศนูปกรณ์ (Audio-Visual Equipments)<br />..เครื่องฉายภาพยนตร์ 16 มม. , 8 มม.<br />..เครื่องฉายสไลด์และฟิล์มสตริป (Slide and Filmstrip Projector)<br />..เครื่องฉายภาพทึบแสง (Opaque Projectors)<br />..เครื่องฉายภาพข้ามศีรษะ (Overhead Projector)<br />..เครื่องฉายกระจกภาพ (3 1/4 "x 4" หรือ Lantern Slide Projector)<br />..เครื่องฉายภาพจุลทัศน์ (Micro-Projector)<br />..เครื่องเล่นจานเสียง (Record Plays)<br />..เครื่องเทปบันทึกภาพ (Video Recorder)<br />..เครื่องรับโทรทัศน์ (Television Receiver)<br />..จอฉายภาพ (Screen)<br />..เครื่องรับวิทยุ(Radio Receive)<br />..เครื่องขยายเสียง(Amplifier)<br />..อุปกรณ์เทคโนโลยีแบบใหม่ต่างๆ (Modern Instructional Technology Devices) เช่น<br />..โทรทัศนศึกษา<br />..ห้องปฏิบัติการภาษา โปรแกรมเรียน (Programmed Learning) และอื่นๆ<br /><br /><span style="color:#ffccff;"><span style="color:#9999ff;">"การใช้สื่อการสอน"</span><br /></span>1. ใช้สื่อการสอนในขั้นนำเข้าสู่บทเรียน ทั้งนี้เพื่อเร้าผู้เรียนให้เกิดความสนใจ และเปลี่ยนพฤติกรรมในเบื้องต้น โดยปรับตนเองให้พร้อมที่จะเรียนรู้บทเรียนใหม่ ซึ่งอาจกระทำได้โดยการรื้อฟื้นความรู้เดิม (assimilation) หรือขยายความรู้เดิม (accommodation) เพื่อนำมาใช้ให้ประสานกันกับความรู้ใหม่ ซึ่งจะเรียนในขั้นต่อไป<br />2. ใช้สื่อการสอนในขั้นประกอบการสอนหรือขั้นดำเนินกิจกรรมการเรียนการสอนเพื่อช่วยให้ความกระจ่างในเนื้อหาที่เรียนหรือทำให้ผู้เรียน เรียนรู้ได้ง่ายขึ้นและเข้าใจข้อเท็จจริงในเนื้อหาอย่างแท้จริงในรูปของการเกิด Concept เข้าใจหลักการสำคัญ และมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไปในแนวทางที่ดีขึ้นตามจุดประสงค์เชิงพฤติกรรมที่ได้กำหนดไว้<br />3. ใช้สื่อการสอนเพื่อขยายขอบเขตความรู้ของผู้เรียนให้ก้าวหน้าและเจริญงอกงามทั้งในด้านความกว้างและความลึกของภูมิปัญญา ซึ่งเป็นผลของการเรียนอย่างแท้จริง<br />4. ใช้สื่อการสอนเพื่อย่อสรุปเนื้อหาสำคัญของบทเรียนเกิดเป็น Concept ในเนื้อหาแต่ละเรื่องใช้สื่อการสอนเพื่อส่งเสริมผู้เรียนให้มีการฝึกและพัฒนาตนเองให้รู้จักขั้นตอนและมีความคิดสร้างสรรค์ (Control and Creativity)<br /><br /><span style="color:#9999ff;">"การติดตามและประเมินผลการใช้สื่อการสอน "<br /></span>โนเอล และ ริโอนาร์ด ได้ให้หลักเกณฑ์ในการติดตามและประเมินผลการใช้สื่อดังนี้<br />>>>1. ผู้สอนและผู้เรียนร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อติดตามผล ดังนี้<br />1. ร่วมกันอภิปรายเนื้อหาที่สำคัญ ในระหว่างการใช้โสตทัศนูปกรณ์<br />2. ร่วมกันทำความเข้าใจเนื้อหาที่ยังไม่เข้าใจ<br />3. ครูอธิบายความคิดรวบยอดให้เด็กเข้าใจได้ชัดเจน<br />4. ร่วมกันจัดกิจกรรมต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์การเรียนรู้<br />5. ร่วมกันวางแผนในการนำผลการเรียนรู้ไปใช้ในการแก้ปัญหาอื่น ๆ หรือการเรียนในเรื่องอื่น ๆ ต่อไป<br />>>>2. ผู้สอนสำรวจดูว่าการใช้สื่อการสอนได้บรรลุตามจุดมุ่งหมายหรือไม่ อาจทำได้ดังนี้<br />1. ผู้สอนวิจารณ์ผลการเรียนโดยใช้สื่อการสอน<br />2. ผู้สอนอาจใช้แบบทดสอบวัดผลการเรียนรู้ของผู้เรียน แต่การทดสอบนั้นต้องเป็นไปตามจุดมุ่งหมาย เช่น ถ้าต้องการทราบความเข้าใจก็ต้องออกแบบทดสอบวัดความเข้าใจ ไม่ควรใช้แบบทดสอบความจำ และไม่ควรใช้แบบทดสอบที่มีความซับซ้อนจนเกินไปเอ็ดการ์ เดล (Edgar Dale) ให้ผู้ใช้ประเมินผลการใช้สื่อการสอนจากคำถามที่ว่า สื่อการสอนเหล่านั้นมีคุณลักษณะดังต่อไปนี้หรือไม่ เพียงไร<br />1. ให้ภาพพจน์ที่แท้จริงในการสอน<br />2. ให้เนื้อหาวิชาตรงตามจุดมุ่งหมาย<br />3. เหมาะสมกับวัย สติปัญญา และประสบการณ์ของผู้เรียน<br />4. สภาพรูปร่าง และลักษณะของโสตทัศนวัสดุเหล่านั้นเป็นที่พอใจ<br />5. มีผู้ให้คำแนะนำแก่ครูในการใช้โสตทัศนวัสดุเหล่านั้นให้ได้ประโยชน์<br />6. ช่วยในการสร้างมนุษยสัมพันธ์<br />7. ช่วยให้นักเรียนใช้ความคิดพิจารณา<br />8. ให้ผลคุ้มค่ากับเวลา ค่าใช้จ่าย และความพยายามที่ได้ทำไปกล่าวโดยสรุป เทคนิคการใช้สื่อ คือ กระบวนการใช้เครื่องมือและวัสดุในการจัดการเกี่ยวกับการเรียนการสอนเช่น การเล่นเกม การจัดสถานการณ์จำลอง การสาธิต การทดสอบ เป็นต้น<br />ที่มา : <a href="http://www.la.ubu.ac.th/Thai/Research/Data/Detail/COMPARE/unit2_2.html" target="_parent">http://www.la.ubu.ac.th/Thai/Research/Data/Detail/COMPARE/unit2_2.html</a><a href="http://www.la.ubu.ac.th/Thai/Research/Data/Detail/COMPARE/unit2_2.html" target="_parent">2</a><a href="http://www.la.ubu.ac.th/Thai/Research/Data/Detail/COMPARE/unit2_2.html" target="_parent">_</a><a href="http://www.la.ubu.ac.th/Thai/Research/Data/Detail/COMPARE/unit2_2.html" target="_parent">2.</a><a href="http://www.la.ubu.ac.th/Thai/Research/Data/Detail/COMPARE/unit2_2.html" target="_parent">html</a> </p>thidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-1051275521633597224.post-4770868279665580902007-09-17T00:49:00.000-07:002008-12-08T21:14:56.510-08:00การออกแบบสื่อวัสดุกราฟิก<span style="color:#ff99ff;"><span style="color:#9999ff;"></span></span><br /><ul><li><span style="color:#ff99ff;"><span style="color:#9999ff;">2. การออกแบบสื่อ</span></span></li></ul><p><span style="color:#ff99ff;">......การออกแบบสื่อการสอน</span> คือ การวางแผนสร้างสรรค์สื่อการสอนหรือการปรับปรุงสื่อการสอนให้มีประสิทธิภาพและมีสภาพที่ดี โดยอาศัยหลักการทางศิลปะ รู้จักเลือกสื่อและวิธีการทำ เพื่อให้สื่อนั้นมีความสวยงาม มีประโยชน์และมีความเหมาะสมกับสภาพการเรียนการสอน<br /><br /><span style="color:#ff99ff;">"ลักษณะการออกแบบที่ดี" (Characteristics of Good Design)</span><br />1. ควรเป็นการออกแบบที่เหมาะสมกับความมุ่งหมายของการนำไปใช้<br />2. ควรเป็นการออกแบบที่มีลักษณะง่ายต่อการมำความเข้าใจ การนำไปใช้งานและกระบวนการผลิต<br />3. ควรมีสัดส่วนที่ดีและเหมาะสมตามสภาพการใช้งานของสื่อ<br />4. ควรมีความกลมกลืนของส่วนประกอบ ตลอดจนสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของการใช้และการผลิตสื่อชนิดนั้น<br /><br /><span style="color:#ff99ff;">"องค์ประกอบของการออกแบบ "</span><br />1. จุด ( Dots )<br />2. เส้น ( Line )<br />3. รูปร่าง รูปทรง ( Shape- Form )<br />4. ปริมาตร ( Volume )<br />5. ลักษณะพื้นผิว ( Texture )<br />6.บริเวณว่าง ( Space )<br />7. สี ( Color )<br />8. น้ำหนักสื่อ ( Value )<br />ที่มา : <a href="http://sps.lpru.ac.th/script/show_article.pl">http://sps.lpru.ac.th/script/show_article.pl</a><br /><br /><span style="color:#ff99ff;">........ภาพตัวอย่างสื่อวัสดุกราฟิก</span><br /><span style="color:#ff99ff;">..................ภาพกราฟิก (Graphics)</span> เป็นสื่อในการนำเสนอที่ดี เนื่องจากมีสีสรร มีรูปแบบที่น่าสนใจ สามารถสื่อความหมายได้กว้าง ประกอบด้วย<br /><br /><span style="color:#ffcc99;">...........ภาพบิตแมพ (Bitmap)</span> เป็นภาพที่มีการเก็บข้อมูลแบบพิกเซล หรือจุดเล็กๆ ที่แสดงค่าสี ดังนั้นภาพหนึ่งๆ จึงเกิดจากจุดเล็กๆ หลายๆ จุดประกอบกัน (คล้ายๆ กับการปักผ้าครอสติก) ทำให้รูปภาพแต่ละรูป เก็บข้อมูลจำนวนมาก เมื่อจะนำมาใช้ จึงมีเทคนิคการบีบอัดข้อมูล ฟอร์แมตของภาพบิตแมพ ที่รู้จักกันดี ได้แก่ .BMP, .PCX, .GIF, .JPG, .TIF<br /><br /></p><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5106580934743926866" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Rt44TegxqFI/AAAAAAAAAGc/FUCOe3mNbgs/s200/bitmap%5B1%5D.gif" border="0" /><br /><br /><br /><span style="color:#ffcc99;">.........ภาพเวกเตอร์ (Vector)</span> เป็นภาพที่สร้างด้วยส่วนประกอบของเส้นลักษณะต่างๆ และคุณสมบัติเกี่ยวกับสีของเส้นนั้นๆ ซึ่งสร้างจากการคำนวณทางคณิตศาสตร์ เช่น ภาพของคน ก็จะถูกสร้างด้วยจุดของเส้นหลายๆ จุด เป็นลักษณะของโครงร่าง (Outline) และสีของคนก็เกิดจากสีของเส้นโครงร่างนั้นๆ กับพื้นที่ผิวภายในนั่นเอง เมื่อมีการแก้ไขภาพ ก็จะเป็นการแก้ไขคุณสมบัติของเส้น ทำให้ภาพไม่สูญเสียความละเอียด เมื่อมีการขยายภาพนั่นเอง ภาพแบบ Vector ที่หลายๆ ท่านคุ้นเคยก็คือ ภาพ .wmf ซึ่งเป็น clipart ของ Microsoft Office นั่นเอง นอกจากนี้คุณจะสามารถพบภาพฟอร์แมตนี้ได้กับภาพในโปรแกรม Adobe Illustrator หรือ Macromedia Freehand<br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5106581170967128162" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 225px; CURSOR: hand; HEIGHT: 126px; TEXT-ALIGN: center" height="197" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Rt44hOgxqGI/AAAAAAAAAGk/6g88trKwlVA/s200/vector%5B1%5D.gif" width="299" border="0" /><br /><span style="color:#ffcc99;">..........คลิปอาร์ต (Clipart)</span> เป็นรูปแบบของการจัดเก็บภาพ จำนวนมากๆ ในลักษณะของตารางภาพ หรือห้องสมุดภาพ หรือคลังภาพ เพื่อให้เรียกใช้ สืบค้น ได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว<br /><br /><span style="color:#ffcc99;">..........HyperPicture</span> มักจะเป็นภาพชนิดพิเศษ ที่พบได้บนสื่อมัลติมีเดีย มีความสามารถเชื่อมโยงไปยังเนื้อหา หรือรายละเอียดอื่นๆ มีการกระทำ เช่น คลิก (Click) หรือเอาเมาส์มาวางไว้เหนือตำแหน่งที่ระบุ (Over)<br /><br />สำหรับการจัดหาภาพ หรือเตรียมภาพ ก็มีหลายวิธี เช่น การสร้างภาพเอง ด้วยโปรแกรมสร้างภาพ เช่น Adobe Photoshop, PhotoImpact, CorelDraw หรือการนำภาพจากอุปกรณ์ เช่น กล้องถ่ายภาพดิจิตอล, กล้องวิดีโอดิจิตอล หรือสแกนเนอร์ที่มาwww.nectec.or.th/courseware/multimedia/0005.html<br /><br />...................................................................................................................................<br /><br /><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5109233677766548594" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 218px; CURSOR: hand; HEIGHT: 136px; TEXT-ALIGN: center" height="205" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Ruek9cW83HI/AAAAAAAAAKI/aqCbpa18jvs/s200/1086244_3781270%5B1%5D.jpg" width="400" border="0" /><br /><p align="center">................................................................................................................................. </p><p><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5108607244479605186" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 184px; CURSOR: hand; HEIGHT: 202px; TEXT-ALIGN: center" height="242" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/RuVrOOgxqcI/AAAAAAAAAJw/hvW9IWBEhFY/s200/Copy+of+new_pa10%5B1%5D.jpg" width="228" border="0" /><br />..................................................................................................................................</p><p><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5106583232551430290" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; WIDTH: 82px; CURSOR: hand; HEIGHT: 103px; TEXT-ALIGN: center" height="64" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Rt46ZOgxqJI/AAAAAAAAAHY/K_D2GgFgn5Q/s200/031%5B1%5D.gif" width="55" border="0" />................................................................................................................................... </p>thidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1051275521633597224.post-65438260810755927602007-09-17T00:45:00.000-07:002008-12-08T21:14:56.737-08:00การเรียนโปรแกรม Photoshop<ul><li><div align="left"><span style="color:#9999ff;">3. การเรียนโปรแกรม Photoshop </span></div></li></ul><p align="left"><strong><span style="color:#ff99ff;">.......Photoshop</span></strong> เป็นโปรแกรมในตระกูล Adobe เป็นโปรแกรมที่ใช้ตกแต่งภาพ<br />หัวใจของ Photoshop คือการทำงานเป็น Layer<br />Layer คือ ชั้นของรูปภาพ วัตถุ จะไม่เกี่ยวข้องกัน<br /><br /><span style="font-size:130%;color:#ccccff;"><span style="font-size:100%;color:#9999ff;">การตั้งค่าหน้ากระดาษ มีวิธีการดังนี้</span><br /></span>.....ไปที่ เมนู File > New จะกำหนดค่าต่างๆคือ<br />Width : กำหนดความกว้าง<br />Height :กำหนดความสูง<br />(ควรเปลี่ยนหน่วยวัดด้านหลังก่อนกำหนดตัวเลข เช่น inches, pixels, cm ,mm )<br />Resolotion : กำหนดเป็น 300<br />Mode : กำหนดโหมดสี ควรกำหนดเป็น RGB ก่อน เป็นสีของแสง สีที่ใช้ในโรงพิมพ์ Picment คือ เม็ดสี ฝุ่นสี ก็คือโหมด CMYK<br />.....C = Cyan สีฟ้า<br />.....M= Mageta สีม่วงแดง<br />.....Y=Yellow สีเหลือง<br />.....K=Black สีดำ<br />Content กำหนด Background<br />White พื้นจะเป็นสีขาว<br />Transparent พื้นจะเป็นสีใส หรือ โปร่งแสง<br /><br /><span style="color:#ccccff;"><span style="color:#9999ff;">การเปิดภาพที่เราต้องการ มีวิธีการดังนี้</span><br /></span>.....ไปที่เมนู File > Open เลือก ไฟล์ต่างๆที่ต้องการภาพ หากต้องการมองภาพให้ทำให้เป็น thumbnails<br />แล้วดับเบิลคลิกที่ภาพจะได้ภาพที่ต้องการ<br /><br /><span style="color:#9999ff;">การตัดภาพ<br /></span>.....การตัดภาพในโปรแกรม Photoshop สามารถใช้เครื่องมือได้หลายชนิด เช่น<br />ไปที่ Elliptical Marquee tool แล้วลากที่ภาพ จะขึ้นเป็นเส้นselection ถ้าต้องการยกเลิกมี 3 วิธี<br />1. คลิกที่ภาพ<br />2. Ctrl + D<br />3. ไปที่เมนู Select > Deselect<br />เมื่อลากที่ภาพแล้วใช้ Arrow Key เลื่อน</p><p align="left"><span style="color:#9999ff;">การทำภาพเพิ่ม<br /></span>1. ไปที่ Edit > Copy แล้วไปที่ Edit > Paste เส้น Select จะหายไป ได้ Layerที่ 2<br />2. Ctrl+T หรือ ไปที่เมนู Edit >Free Tranfrom<br />3. กด Shift ย่อภาพที่มุม<br />4. Ctrl +T<br />5. ลากกลับภาพ แล้ว enter Ctrl +T จะหาย<br /><br /><span style="color:#ccccff;"><span style="color:#9999ff;">ขั้นตอนการตกแต่งภาพ</span><br /></span>1. Double คลิก Layer2 จะเป็น Layer Style เลือก Bevel and Emboss การทำให้นูน<br />2. ตั้งค่า ต่างๆ smooth, depth, size, soften ให้ภาพดูสวย<br />3. Double คลิก Layer 2 เลือก Drop Shadow ใส่เงา ตั้งค่าตามต้องการ<br />4. ไปที่ Opacity เป็นการปรับภาพให้จางลง<br /><br /><span style="color:#ccccff;"><span style="color:#9999ff;">การแก้ไขงาน ทำได้ 2 วิธี คือ</span><br /></span>1. Ctrl + Z เป็นการกลับไปยังคำสั่งสุดท้าย<br />2. ไปที่ History เลือกกลับไปยังครั้งที่ต้องการแก้ไข<br /><br /><span style="color:#9999ff;">การตัดพื้น<br /></span>.....การใช้ Polygonal Lasso Tool คลิกที่ภาพแล้วปล่อยจึงคลิกที่ภาพต่อไปเรื่อยๆ ถ้าต้องการตัดพื้นหลังออกให้คลิกในพื้นหลังจนกลับถึงจุดแรกให้เป็นเส้น select แล้วลบ พื้นหลังจะถูกลบออก ทำเช่นนี้ต่อไปจนได้ภาพที่ต้องการ แล้วจึงใช้ยางลบ ลบพื้นหลังที่ที่ยังเหลือให้มีเพียงภาพ แล้วจึงค่อยตกแต่ง<br /><br /><span style="color:#9999ff;">การบันทึกงาน สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้<br /></span>.......1.การ Save งานในนามสกุล PSD เพื่อสามารถไว้แก้ไข แต่จะเปลืองพื้นที่ มีวิธีการดังนี้<br />1. เลือกเมนู File > Save as<br />2. กำหนด Folder ที่จะเก็บงาน ชื่อและประเภทของไฟล์ ที่จะ save<br />3. กำหนดค่าต่างๆ และที่ช่อง save กำหนดเป็น สกุลของ Photoshop คือ .psd<br />.......2. การ Save งานในนามสกุล JPEG เป็นการ save ที่ไม่สามารถแก้ไขงานได้ เป็นงานที่สมบูรณ์แล้ว แต่เป็นการsave ที่ไม่เปลืองพื้นที่<br />.......3. การ Save งานในนามสกุล GIF เป็นการ save ที่ไม่สามรถแก้ไขงานได้ เป็นงานที่สมบูรณ์แล้ว แต่จะ เป็นการ save ที่จะไม่ติดพื้นหลังมาด้วยเมื่อมีการตัดภาพ (พื้นโปร่ง)<br /><br /><span style="color:#9999ff;">การใช้ Filter</span><br />......เมื่อได้ภาพที่ตัดสมบูรณ์แล้ว สามารถใช้ Filter ในการปรับแต่งภาพโดยวิธีดังนี้ เช่น<br />ไปที่ เมนู Filter > Stylize > Emboss สามารถปรับค่าต่างๆ ให้ภาพดูสวย พอใจแล้ว OK<br />สามารถปรับแต่งภาพโดยใช้ Filter ได้หลายวิธีตามความต้องการ เช่น Sketch ,Artistic และอื่นๆโดยการ save ภาพต้นฉบับไว้ 1 ภาพ เพื่อสำหรับปรับแต่งภาพไว้หลายๆแบบ ไว้เลือกหรือเปรียบเทียบ<br /></p><div align="left"><span style="color:#ff99ff;">ตัวอย่างภาพที่ใช้ filter </span></div><div align="left"><span style="color:#ff99ff;"><br /></div></span><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5111069651731537122" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Ru4qxMW83OI/AAAAAAAAALA/q1RZjTYcjgo/s200/ae+2+filter+stylize+emboss.gif" border="0" /> <p align="center"><br />Filter : stylize emboss...<br /></p><p align="center"></p><br /><p align="center"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5111068251572198594" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://3.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Ru4pfsW83MI/AAAAAAAAAKw/LdOZHgfo098/s200/ae+3+filter+sketch+Photocopy.gif" border="0" /></p><br /><p align="center">Filter : sketch photocopy...<br /></p><br /><p align="center"></p>thidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.com2tag:blogger.com,1999:blog-1051275521633597224.post-20267908783802853812007-08-28T05:02:00.001-07:002008-12-08T21:14:56.859-08:00สื่อวัสดุกราฟิก “สีไม้”<ul><br /><li><strong><span style="font-size:130%;">5. เรื่อง SPORTS</span></strong></li></ul><p><strong><span style="font-size:130%;"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5103719747790415538" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://1.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/RtQOEegxprI/AAAAAAAAADM/jJ4Bu1_gqhw/s320/ae.jpg" border="0" /></span></strong></p><p><br />>>>ใช้สอนเรื่อง คำศัพท์เกี่ยวกับกีฬาต่างๆได้แก่ volleyball, fishing, cycling, swimming, jogging,<br />table-tennis , boxing, hose racing, football, tennis, judo, sailing, and wrestling<br />>>>สอนในระดับช่วงชั้นที่ 3 มัธยมศึกษาปีที่ 1 – 3 </p><p>>>>มีวิธีใช้ คือ ในรูปประโยคดังนี้<br />........ A: Do you like …………….?<br />.........B: Yes, I do. / No, I don’t.<br /><br />.........A: What is your favorite sport?<br />.........B: My favorite sport is ...............</p><br /><p>.........A: What do you think is the most exciting sport? Why?<br />.........B: I think ……………… is the most exciting sport because…………………………… </p><p><br />.........A: What is he/she doing? / What are they doing?<br />.........B: He / She is ……………… / They are ……………….<br /><br /></p>thidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.com0tag:blogger.com,1999:blog-1051275521633597224.post-90364603970852016822007-08-09T07:46:00.000-07:002008-12-08T21:14:56.996-08:00เรียนวิธีทำBlog<span style="font-family:trebuchet ms;">วันนี้วันที่ 8 สิงหาคม 2550 เรียนวิธีทำ Blog เพื่อมีพื้นที่ในการนำเสนองานของตนเอง โดยสมัครได้ที่www.Blogger.com/home และได้เรียนวิธีการปรับแต่งหน้าBlog การปรับแต่งตัวอักษรหัวเรื่องให้น่าสนใจ โดยการทำให้ขนาดใหญ่ขึ้นเป็นการเน้นเพื่อดึงดูดความสนใจ เช่น ภาษาอังกฤษควรทำให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ การปรับเปลี่ยนสีพื้นหน้า Blog สีตัวอักษร รวมถึงเรียนการนำรูปมาใส่ไว้หน้าBlog </span><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5096302168395776754" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://2.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Rrmz0h9IgvI/AAAAAAAAAAU/4-bXtwDJPMw/s200/images%5B56%5D.jpg" border="0" />thidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.com1tag:blogger.com,1999:blog-1051275521633597224.post-35381282443440248882007-08-08T05:36:00.001-07:002008-12-08T21:14:57.059-08:00ความรู้ที่ได้รับจากการเรียน<a href="http://4.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Rrmw_B9IguI/AAAAAAAAAAM/Fk-XGH9Nbh4/s1600-h/CACZYXYT.jpg"><img id="BLOGGER_PHOTO_ID_5096299050249519842" style="DISPLAY: block; MARGIN: 0px auto 10px; CURSOR: hand; TEXT-ALIGN: center" alt="" src="http://4.bp.blogspot.com/_kC4nkMoaORY/Rrmw_B9IguI/AAAAAAAAAAM/Fk-XGH9Nbh4/s200/CACZYXYT.jpg" border="0" /></a><br /><div><span style="font-family:verdana;">ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการทำสื่อการเรียนการสอน การลงสีไม้ เทคนิคการใช้สีไม้ การเรียนเกี่ยวกับ Power Point & Photoshop การตัดแต่งรูปภาพ การใช้เครื่องมือในPhotoshop ที่จำเป็นในการใช้ตกแต่งรูปภาพ</span></div>thidarathttp://www.blogger.com/profile/04821407753419092237noreply@blogger.com1